ผศ.ดร.ณัธคพัชฬ รัตนพิทูลย์
ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
พยาธิใบไม้ปอดก่อโรค Paragonimiasis มีรายงานในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง เกิดจากการรับประทานอาหารแบบดิบๆ ที่ทำมาจากปูภูเขาหรือกุ้งภูเขา มีสัตว์ที่เป็นรังเก็บโรค คือ สุนัข แมว เสือ พยาธิใบไม้ปอดที่สำคัญๆ เช่น Paragonimus westermani, P. heterotremus (พบในประเทศไทย)
Paragonimus westermani
พยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างรีคล้ายรูปไข่ มีสีแดงแกมน้ำตาล ผิวหนังมีหนามเล็ก ๆ ปกคลุม oral sucker และ ventral sucker มีขนาดใกล้เคียงกัน ventral sucker อยู่กลางลำตัว อัณฑะมี 2 อัน ไม่มี cirrus pouch รังไข่เป็น lobe อยู่ด้านซ้ายหรือขวาของ ventral sucker ลำไส้แยกเป็น 2 แขนงทอดตัวที่สองข้างของลำตัวไปสุดที่ส่วนท้าย เป็นลักษณะสำคัญของพยาธิชนิดนี้ที่ใช้แยกกับ genus อื่นๆ vitelline follicle ตรงข้ามกับรังไข่ มี excretory bladder เป็นถุงยาว
P. heterotremus
ตัวเต็มวัยคล้ายกับ P. westermani รูปร่างรี ส่วนหัวท้ายค่อนข้างเรียวแหลม ผิวหนังปกคลุมด้วยหนาม oral sucker อยู่ปลายสุดของส่วนหัวใหญ่กว่า ventral sucker รังไข่แตกแขนงอย่างละเอียด มดลูกขดไปมาเป็นกลุ่ม อัณฑะมี 2 อัน
ภาพที่ 1 ภาพวาดระยะตัวเต็มวัยพยาธิใบไม้ปอด
วงจรชีวิต
พยาธิระยะตัวเต็มวัยอาศัยในเนื้อปอดของโฮสท์จำเพาะ ไข่ออกมากับเสมหะ และถูกกลืนผ่านไปที่ลำไส้ปนออกมากับอุจจาระ เมื่อไข่ที่ปนในอุจจาระตกลงแหล่งน้ำ จะเจริญเป็นระยะ miracidium ว่ายน้ำและไชเข้าโฮสท์ตัวกลางที่ 1 คือ หอยน้ำจืด เจริญเป็น sporocyst , redia , cercaria แล้วออกจากตัวหอยไชเข้าสู่โฮสท์ตัวกลางที่ 2 คือ กุ้งภูเขา ปูภูเขา กลายเป็นระยะติดต่อ metacercaria คนจะได้รับเชื้อจาก การกินอาหารดิบๆ ตัวอ่อนจะออกจากเกราะหุ้มที่ลำไส้เล็กส่วนต้น และไชผ่านผนังลำไส้เข้าสู่ช่องท้อง ผ่านกะบังลมเข้าสู่เยื่อหุ้มปอดไปฝังตัวที่เนื้อปอด ภายในปอดพยาธิตัวอ่อนจะกลายเป็นตัวแก่ ระยะเวลาของแต่ละวงจรกินเวลาประมาณ 7 เดือน
ภาพที่ 2 ภาพวาดแสดงวงจรชีวิตของพยาธิใบไม้ปอด
พยาธิสภาพและอาการ
พยาธิตัวอ่อนไชผ่านผนังลำไส้ กะบังลม ปอด จะยังไม่มีอาการมากนัก แต่เมื่อพยาธิไปถึงที่ปอดจะทำให้เนื้อปอดเกิดการอักเสบ เนื้อปอดบริเวณนั้นตาย และมีพังผืดมาหุ้มตัวพยาธิซึ่งมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลแดงรอบๆ ตัวพยาธิมีหนองข้นเหนียวปนเลือด และไข่พยาธิ เมื่อแตกออกเข้าสู่หลอดลม ขณะไอจะมีเสมหะปนหนองและไข่พยาธิจะปนออกมาด้วย เสมหะจะมีสีสนิม ถ้าพยาธิไปอยู่ที่กล้ามเนื้อหรือใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นแผลเรื้อรังได้
การตรวจวินิจฉัย
- ผู้ป่วยมีประวัติไอเรื้อรังมานาน มีเสมหะปนเลือด บางครั้งไอเป็นเลือดสด
- มีประวัติกินปูน้ำจืดหรือกุ้งแบบสุก ๆ ดิบ ๆ
- ตรวจพบไข่พยาธิในเสมหะ อุจจาระ น้ำจากช่องปอด หรือน้ำไขสันหลั
- เอกซ์เรย์ปอดอาจพบโพรงหรือเงาทึบมีลักษณะกลมเป็นวงแหวน ขอบไม่ชัดเจน และมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
- การวินิจฉัยทางภูมิคุ้มกัน เช่น ELISA
การรักษา
ให้ยา Praziquantel 75 มิลลิกรับม/กิโลกรัม แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง นาน 3 วัน
การควบคุมและป้องกัน
- ให้ประชาชนเข้าใจถึงวงชีวิตและการป้องกัน
- ไม่รับประทานอาหารที่ปรุงด้วยปูนาหรือกุ้งดิบ ๆ
- ไม่ถ่ายอุจจาระเรี่ยราด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายลงน้ำ ไม่บ้วนเสมหะเรี่ยราดตาม พื้นดิน
- กำจัด intermediate host เช่นหอยน้ำจืด ปูภูเขา กุ้งภูเขา
- กำจัดสัตว์ที่เป็น reservior host เช่น สุนัข แมว เสือ
เอกสารอ้างอิง
- ณัฏฐวุฒิ แก้วพิทูลย์. ปรสิตวิทยาสำหรับพยาบาลและสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งที่ 1. สมบูรณ์การพิมพ์ จำกัด, นครราชสีมา. 278 หน้า
- ชโลบล วงศ์สวัสดิ์. ปรสิตวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 2. ชมพูการพิมพ์, เชียงใหม่. 254 หน้า
- นิมิต มรกต และเกตุรัตน์ สุขวัจน์. ปรสิตวิทยาทางการแพทย์: โปรโตซัวและหนอนพยาธิ. พิมพ์ครั้งที่ 1: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2546, 477 หน้า
- ประยงค์ ระดมยศ. อัญชลี ตั้งตรงจิตร. ศรีวิชา ครุฑสูตร. พลรัตน์ วิไลรัตน์. ศรชัย หลูอารีย์สุวรรณ. 2547. Atlas of Medical Parsitology with 465 color illustrations. สำนักพิมพ์เมดิคัล มีเดีย. กรุงเทพฯ. 465 หน้า
- ประยงค์ ระดมยศ, สุวณี คีภเวชย์ และศรชัย หลูอารีย์สุวรรณ. 2539. ตำราปาราสิตวิทยาทางการแพทย์. ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 355 หน้า
- ประยงค์ ระดมยศ อัญชลี ตั้งตรงจิตร พลรัตน์ วิไลรัตน์ ศรชัย หลูอารีย์สุวรรณ แทน จงศุภชัยสิทธิ์. 2538. Atlas of Medical Parasitology. พิมพ์ครั้งที่ 2. สำนักพิมพ์เมดิคัล มีเดีย. กรุงเทพฯ. 456 หน้า
- วีระยุทธ แดนสีแก้ว. 2538. ปรสิตวิทยาพื้นฐานทางการแพทย์. ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 301 หน้า.